จิงจู่ฉ่าย เป็นยาเย็น ช่วยบำรุงปอด บำรุงเลือดลม ปรับสมดุลความดันโลหิต บำรุงปอด ฆ่าเชื้อไวรัส ต้านเซลล์มะเร็ง

ชื่อสามัญ               White Mugwort
ชื่อวิทยาศาสตร์     Artemisia  lactiflora Wall
ชื่อเรียกอื่น             โกศจุฬาลัมพา  , เซเลอรี่
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์     เป็นพืชล้มลุก  กอคล้ายๆ ใบบัวบก  หรือไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 0.5 – 1 ฟุต รากหรือเหง้าใหญ่กระจายกว้าง  แตกกิ่งก้านหนาแน่นแผ่กว้างคลุมดินคล้ายกับต้นบัวบก  ใบรูปรีขอบจักเป็น 5 แฉก  ทรงใบเหมือนใบขึ้นฉ่าย เนื้อใบหนา มีกลิ่นหอม  รสขมเล็กน้อย  ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดปลูกขึ้นได้ในดินทั่วไป สามารถปลูกลงดินกลางแจ้งและปลูกลงกระถางตั้งในที่มี  แสงแดดส่องถึงตลอดวัน  โดยสามารถแยกกิ่งที่แก่ หรือรากไปปักชำได้อีกด้วย   นับเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์และเหมาะกับการปลูกไว้ติดบ้านอย่างยิ่ง
                 จิงจูฉ่าย   เป็นผักที่ชาวจีนนิยมปลูกเพื่อนำไปปรุงเป็นอาหารรับประทานกันอย่างแพร่หลาย  ส่วนใหญ่จะเอายอดอ่อน หรือทั้งต้นนำมาทำต้มเลือดหมูกินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมาก  ซึ่งแพทย์จีนเชื่อว่า จิงจูฉ่าย  เป็นยาเย็น (หยิน)  เมื่อกินแล้วจะช่วยแก้ไขได้  บำรุงปอด ฟอกเลือด  ทำให้เลือดไหลเวียนดี  ต้นและใบมีน้ำมันหอมระเหยประกอบด้วย  ไลโมนีน, ซิลีนีน และสารไกลโคไซด์ ชื่อ อะพิอิน มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ช่วยขับลมในกระเพาะอาหารลำไส้ เมล็ด มี โซเดียมต่ำจึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคไต

jingjuchai

สรรพคุณ    จิงจูฉ่าย  มีกลิ่นหอมคล้ายๆ กับตั้งโอ๋   ยิ่งโดนความร้อนจะยิ่งหอม  และยิ่งเพิ่มสรรพคุณมากขึ้น   โดยกลิ่นหอมนั้นมาจาก ต้นและใบมีน้ำหอมระเหย  ประกอบด้วยสารไลโมนีน  (Limonene) ซิลินีน (selinene) และสารกลัยโคไซด์ (glycosides)ชื่อว่าอะปิอิน (apiin)   ซึ่งสารที่กล่าวมานี้มีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต   เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดัน  และช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ดีด้วย  ส่วน ต้นสดและเมล็ดของ จิงจูฉ่าย  มีโซเดียมต่ำเหมาะกับผู้ป่วยโรคไต  ช่วยบำรุงปอด ช่วยฟอกเลือด  ทำให้เลือดอุ่นและไหลเวียนได้ดี  ขับสารพิษ  ฆ่าเชื้อไวรัส  ต้านเซลล์มะเร็งป้องกันมะเร็งและรักษามะเร็งได้กับบางคนอีกด้วย 
 jingjuchai-1
วิธีรับประทาน  
1.  ใช้ต้นหรือใบพอประมาณ  ปั่นผสมกับน้ำสะอาด 1-2  แก้ว  ใช้ผ้าขาวบางกรองเอาเฉพาะน้ำดื่มวันละแก้วก่อนอาหารหรืออย่างน้อย 2 ชั่วโมงหลังอาหารเพื่อความรวดเร็วในการเข้าถึงเซลล์และป้องกันการปะปนกับสารอื่นๆ ที่จะทำให้ประสิทธิภาพของสมุนไพรลดลง  จะช่วยป้องกันมะเร็งได้  ถึงแม้อาจไม่ 100%  แต่ก็จะให้ร่างกายและการรักษาโรคมะเร็งดีขึ้น
2.  ปรุงเป็นอาหารรับประทาน โดยเฉพาะในหน้าหนาว  ช่วยในเรื่องการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลให้ร่างกายได้ดี
คุณค่าทางโภชนาการ     จิงจูฉ่าย  100 กรัมให้พลังงาน  392  กิโลแคลอรี  ประกอบด้วยสารอาหารนานาชนิด  คือ โปรตีน  ไขมัน  คาร์โบไฮเดรต  เส้นใย  แคลเซียม  เหล็ก  ฟอสฟอรัส  วิตามินเอ   วิตามินบี6  วิตามินซี  และวิตามินอี
ที่มา   โครงการชาวนาอัจฉริยะ

 

Leave a Comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.